นิทรรศการของหน่วยงาน > กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงศึกษาธิการ
Ministry of Education

บทบาท/ภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการ


วิสัยทัศน์
       ภายในปี 2570 ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ สอดคล้องกับความถนัดและความสนใจ มีความสุขในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต มีคุณธรรมจริยธรรม ภาคภูมิใจในความเป็นไทย มีทักษะที่จำเป็น และปรับตัวสอดคล้องกับวิถีชีวิตโลกยุคใหม่

 

พันธกิจ
       กระทรวงศึกษาธิการมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและกำกับดูแลการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท และการอาชีวศึกษา กำหนดนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษา สนับสนุนทรัพยากร เพื่อการศึกษา ส่งเสริมและประสานงานการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการกีฬา ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับการศึกษา รวมทั้งการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษา และราชการอื่นตามที่มีกฎหมาย กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงหรือส่วนราชการที่สังกัดกระทรวง ซึ่งในการดำเนินงานตามภารกิจหน้าที่ตามกฎหมายและเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ที่กำหนด กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดพันธกิจที่ต้องดำเนินการ ดังนี้

1. พัฒนาการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน

2. เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

3. ผลิต พัฒนาและสร้างเสริมศักยภาพกำลังคนที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและความต้องการของประเทศ

4. ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์สำหรับการพัฒนาด้านการศึกษา สังคม หรือสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ

5. พัฒนาระบบบริหารจัดการการศึกษาให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล

 

ค่านิยมร่วม

“เรียนดี มีความสุข”

 

ยุทธศาสตร์

1) การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศ

2) การผลิตและพัฒนากำลังคน เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

3) การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้

4) การสร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเสมอภาค

5) การจัดการศึกษาเพื่อการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

6) การพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล

 

เป้าประสงค์

ผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ ความเข้าใจ ปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้อง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถปรับตัวรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ได้คามสถานการณ์

ผู้เรียนและประชากรกลุ่มเป้าหมายได้รับการพัฒนาทักษะสมรรถนะวิชาชีพ ตามความต้องการของตลาดแรงงานและสนับสนุนการพัฒนาประเทศ
ผู้เรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ มีทักษะจำเป็นในโลกยุคใหม่ ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญา และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต

ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ และได้รับการส่งเสริมให้มีความก้าวหน้าในวิชาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

มีผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อพัฒนาการศึกษา สังคม หรือสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ

ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย มีหลักประกันในการเข้าถึงบริการทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง เสมอภาคและเหมาะสม

ผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง มีความตระหนักในการดำเนินชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ระบบบริหารจัดการศึกษามีประสิทธิภาพ และทันสมัย

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ

 

สกูปพิเศษ ศธ.360 องศา : สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ขับเคลื่อนงานวิจัย พัฒนานวัตกรรม สร้างระบบนิเวศการศึกษา พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคทัล

       ภายใต้บริบทโลกที่ผันแปรอย่างรวดเร็วและมีความท้าทายเพิ่มขึ้น ทั้งในมิติของเทคโนโลยีและวิวัฒนาการของกระบวนการจัดการศึกษา การพัฒนาการศึกษาของประเทศจึงจำเป็นต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับพลวัตการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์และมุมมองในเรื่องดังกล่าว โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิจัย ในฐานะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการพัฒนานวัตกรรมการศึกษา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนในยุคปัจจุบันและอนาคต โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อพัฒนาการศึกษาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
“สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนการจัดการศึกษา ต้องตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อให้เท่าทันต่อพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลก อย่างไรก็ตามในกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมการศึกษา นักวิจัยไม่สามารถอาศัยการคาดการณ์โดยปราศจากข้อมูลเชิงประจักษ์ หรือ “นั่งเทียน” เขียนนวัตกรรมการศึกษาขึ้นมาได้ นวัตกรรมการศึกษาจะเกิดขึ้นได้จะต้องมีรากฐานที่ดีจากกระบวนการวิจัยที่เป็นระบบและเข้มข้น รวมถึงดำเนินการบนพื้นฐานของข้อมูลสารสนเทศที่แท้จริง ด้วยเหตุนี้ กระบวนการวิจัยจึงเป็นเงื่อนไขสำคัญของการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับกระบวนการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ นักวิจัยในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการจึงต้องดำเนินการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อให้การพัฒนานวัตกรรมสามารถนำไปตอบสนองต่อปัญหาและยกระดับคุณภาพการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิผล”

       ซึ่งมุมมองดังกล่าว สอดคล้องกับแนวทางในการขับเคลื่อนระบบฐานข้อมูลวิจัยของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ “OPS MOE Research” OPS ในการกำหนดเป้าประสงค์ (Objective) วัตถุประสงค์ (Purpose) และยุทธศาสตร์ (Strategy) ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่าง ๆ นั้น สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ยึดตามนโยบายของพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในเรื่อง “การพัฒนาคุณภาพการศึกษาบนฐานข้อมูลสารสนเทศ” ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการตอบสนองต่อความต้องการของสังคมและพลวัตการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิผล

       โดยการกำหนดยุทธศาสตร์ดังกล่าว จำเป็นต้องพิจารณาถึงสถานการณ์และบริบทเชิงพื้นที่ รวมถึงระบบนิเวศการศึกษาที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบนิเวศแบบ Stand Alone ระบบนิเวศเฉพาะ หรือบริบททางการศึกษาที่หลากหลาย ซึ่งบริบทเชิงพื้นที่เหล่านี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับการวิจัยและพัฒนาการจัดการศึกษาของประเทศไทยในอนาคต ดังนั้นจะเห็นว่าการจัดการศึกษาจึงมิใช่การคาดการณ์โดยปราศจากข้อมูลเชิงประจักษ์ หากแต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

M – Research (Main Research Focus) ให้ความสำคัญกับการวิจัยเชิงนโยบาย โดยมุ่งเน้นการนำผลการวิจัยมาใช้เป็นข้อมูลหลักในการกำหนดนโยบายและแผนการพัฒนาการศึกษา ซึ่งในส่วนนี้สอดคล้องกับมุมมองของปลัดกระทรวงศึกษาธิการที่กล่าวว่า “การพัฒนาผลงานวิจัย มิใช่เพียงแค่การคิดค้น หากแต่ต้องอาศัยข้อมูลและสารสนเทศที่ได้จากการจัดเก็บและวิเคราะห์สังเคราะห์อย่างเป็นระบบเพื่อเป็นฐานในการตัดสินใจ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในกระบวนการพัฒนาการศึกษาในอนาคตทำให้การวิจัยเป็นเครื่องมือสำคัญในการแสวงหาข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาการศึกษา” ด้วยเหตุนี้การวิจัยจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญและสามารถนำมาใช้ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม

O – Research (Opportunities for research development) การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนางานตามภารกิจ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการในฐานะหน่วยงานสนับสนุนการจัดการศึกษาให้ความสำคัญต่อการวิจัยและสร้างนวัตกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายการศึกษาเพื่อให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องสามารถนำผลวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในหลากหลายมิติของการพัฒนาการศึกษาตามภารกิจของหน่วยงานทั้งการพัฒนานโยบายการศึกษา การพัฒนากระบวนการเรียนการสอน การพัฒนาหลักสูตร การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา การพัฒนาการวัดและประเมินผล การส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษา และยกระดับคุณภาพของผู้เรียน

E – Research (Enhancing Research Capacity) การเพิ่มขีดความสามารถในการวิจัย นอกจากการสนับสนุนด้านงบประมาณแล้ว สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของนักวิจัยทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่า ซึ่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการมีแนวคิดว่า “ไม่ว่าจะทำงานใดก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องมีการแสวงหาองค์ความรู้ใหม่ ๆ และใช้กระบวนการวิจัยที่น่าเชื่อถือมาสนับสนุนการทำงาน” ซึ่งทำให้เห็นว่า ในกระบวนการสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ และการส่งเสริมให้นักวิจัยรุ่นเก่า มีความเป็นนักวิจัยมืออาชีพ มีประสบการณ์และสามารถต่อยอดงานวิจัยได้นั้นถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานให้กับระบบวิจัยของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

       ปัจจุบันสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาได้มีการพัฒนา OPS MOE Research ซึ่งเป็นฐานข้อมูลวิจัยของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้ลิงก์ opsresearch.moe.go.th อันจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลงานวิจัย ที่ดำเนินการโดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการอย่างมีระเบียบและเป็นระบบ นอกจากนี้ยังเป็นช่องทางในการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ข้อมูลและผลงานวิจัยได้ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งในและนอกภาครัฐ ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและการตระหนักรู้ในผลกระทบและคุณค่าของงานวิจัยที่สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการมาจนกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ

       งานวิจัยคือหัวใจสำคัญในการพลิกโฉมการศึกษาไทย สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กำลังเดินหน้าวางระบบนิเวศการวิจัยที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างนวัตกรรมการศึกษาที่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศในยุคทัลและเตรียมความพร้อมให้กับคนไทยสำหรับการก้าวสู่โลกอนาคตอย่างยั่งยืน มาร่วมกันผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการเพื่อเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาต่อไป หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือและนำแนวทางนโยบายที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงบริบทของแต่ละพื้นที่ มาเป็นกรอบในการสรรค์สร้างงานวิจัย และใช้ผลการวิจัยนั้นเป็นข้อมูลในการยกระดับคุณภาพการศึกษาในอนาคต

สรุปผลงานกระทรวงศึกษาธิการ รอบ 1 ปี (กันยายน 2566 - ปัจจุบัน)

เว็บไซต์หน่วยงาน : 

เว็บไซต์ กระทรวงศึกษาธิการ

https://www.moe.go.th/

เว็บไซต์ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

https://ops.moe.go.th/

ข่าว ศธ.360 องศา

https://moe360.blog/

Facebook กระทรวงศึกษาธิการ

https://www.facebook.com/moe.sueksa.th

Facebook ศธ.360 องศา

https://www.facebook.com/MOE360degree

X กระทรวงศึกษาธิการ

https://twitter.com/moe_net

X กศธ.360 องศา

https://twitter.com/MOE360degree

YouTube ศธ.360 องศา 

https://www.youtube.com/channel/UCMxCmk-wxf1N5hh0wszCMqg

บทบาท/ภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการ


วิสัยทัศน์
       ภายในปี 2570 ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ สอดคล้องกับความถนัดและความสนใจ มีความสุขในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต มีคุณธรรมจริยธรรม ภาคภูมิใจในความเป็นไทย มีทักษะที่จำเป็น และปรับตัวสอดคล้องกับวิถีชีวิตโลกยุคใหม่

 

พันธกิจ
       กระทรวงศึกษาธิการมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและกำกับดูแลการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท และการอาชีวศึกษา กำหนดนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษา สนับสนุนทรัพยากร เพื่อการศึกษา ส่งเสริมและประสานงานการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการกีฬา ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับการศึกษา รวมทั้งการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษา และราชการอื่นตามที่มีกฎหมาย กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงหรือส่วนราชการที่สังกัดกระทรวง ซึ่งในการดำเนินงานตามภารกิจหน้าที่ตามกฎหมายและเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ที่กำหนด กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดพันธกิจที่ต้องดำเนินการ ดังนี้

1. พัฒนาการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน

2. เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

3. ผลิต พัฒนาและสร้างเสริมศักยภาพกำลังคนที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและความต้องการของประเทศ

4. ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์สำหรับการพัฒนาด้านการศึกษา สังคม หรือสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ

5. พัฒนาระบบบริหารจัดการการศึกษาให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล

 

ค่านิยมร่วม

“เรียนดี มีความสุข”

 

ยุทธศาสตร์

1) การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศ

2) การผลิตและพัฒนากำลังคน เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

3) การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้

4) การสร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเสมอภาค

5) การจัดการศึกษาเพื่อการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

6) การพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล

 

เป้าประสงค์

ผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ ความเข้าใจ ปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้อง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถปรับตัวรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ได้คามสถานการณ์

ผู้เรียนและประชากรกลุ่มเป้าหมายได้รับการพัฒนาทักษะสมรรถนะวิชาชีพ ตามความต้องการของตลาดแรงงานและสนับสนุนการพัฒนาประเทศ
ผู้เรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ มีทักษะจำเป็นในโลกยุคใหม่ ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญา และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต

ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ และได้รับการส่งเสริมให้มีความก้าวหน้าในวิชาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

มีผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อพัฒนาการศึกษา สังคม หรือสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ

ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย มีหลักประกันในการเข้าถึงบริการทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง เสมอภาคและเหมาะสม

ผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง มีความตระหนักในการดำเนินชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ระบบบริหารจัดการศึกษามีประสิทธิภาพ และทันสมัย

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ

 

สกูปพิเศษ ศธ.360 องศา : สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ขับเคลื่อนงานวิจัย พัฒนานวัตกรรม สร้างระบบนิเวศการศึกษา พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคทัล

       ภายใต้บริบทโลกที่ผันแปรอย่างรวดเร็วและมีความท้าทายเพิ่มขึ้น ทั้งในมิติของเทคโนโลยีและวิวัฒนาการของกระบวนการจัดการศึกษา การพัฒนาการศึกษาของประเทศจึงจำเป็นต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับพลวัตการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์และมุมมองในเรื่องดังกล่าว โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิจัย ในฐานะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการพัฒนานวัตกรรมการศึกษา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนในยุคปัจจุบันและอนาคต โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อพัฒนาการศึกษาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
“สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนการจัดการศึกษา ต้องตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อให้เท่าทันต่อพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลก อย่างไรก็ตามในกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมการศึกษา นักวิจัยไม่สามารถอาศัยการคาดการณ์โดยปราศจากข้อมูลเชิงประจักษ์ หรือ “นั่งเทียน” เขียนนวัตกรรมการศึกษาขึ้นมาได้ นวัตกรรมการศึกษาจะเกิดขึ้นได้จะต้องมีรากฐานที่ดีจากกระบวนการวิจัยที่เป็นระบบและเข้มข้น รวมถึงดำเนินการบนพื้นฐานของข้อมูลสารสนเทศที่แท้จริง ด้วยเหตุนี้ กระบวนการวิจัยจึงเป็นเงื่อนไขสำคัญของการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับกระบวนการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ นักวิจัยในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการจึงต้องดำเนินการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อให้การพัฒนานวัตกรรมสามารถนำไปตอบสนองต่อปัญหาและยกระดับคุณภาพการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิผล”

       ซึ่งมุมมองดังกล่าว สอดคล้องกับแนวทางในการขับเคลื่อนระบบฐานข้อมูลวิจัยของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ “OPS MOE Research” OPS ในการกำหนดเป้าประสงค์ (Objective) วัตถุประสงค์ (Purpose) และยุทธศาสตร์ (Strategy) ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่าง ๆ นั้น สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ยึดตามนโยบายของพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในเรื่อง “การพัฒนาคุณภาพการศึกษาบนฐานข้อมูลสารสนเทศ” ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการตอบสนองต่อความต้องการของสังคมและพลวัตการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิผล

       โดยการกำหนดยุทธศาสตร์ดังกล่าว จำเป็นต้องพิจารณาถึงสถานการณ์และบริบทเชิงพื้นที่ รวมถึงระบบนิเวศการศึกษาที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบนิเวศแบบ Stand Alone ระบบนิเวศเฉพาะ หรือบริบททางการศึกษาที่หลากหลาย ซึ่งบริบทเชิงพื้นที่เหล่านี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับการวิจัยและพัฒนาการจัดการศึกษาของประเทศไทยในอนาคต ดังนั้นจะเห็นว่าการจัดการศึกษาจึงมิใช่การคาดการณ์โดยปราศจากข้อมูลเชิงประจักษ์ หากแต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

M – Research (Main Research Focus) ให้ความสำคัญกับการวิจัยเชิงนโยบาย โดยมุ่งเน้นการนำผลการวิจัยมาใช้เป็นข้อมูลหลักในการกำหนดนโยบายและแผนการพัฒนาการศึกษา ซึ่งในส่วนนี้สอดคล้องกับมุมมองของปลัดกระทรวงศึกษาธิการที่กล่าวว่า “การพัฒนาผลงานวิจัย มิใช่เพียงแค่การคิดค้น หากแต่ต้องอาศัยข้อมูลและสารสนเทศที่ได้จากการจัดเก็บและวิเคราะห์สังเคราะห์อย่างเป็นระบบเพื่อเป็นฐานในการตัดสินใจ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในกระบวนการพัฒนาการศึกษาในอนาคตทำให้การวิจัยเป็นเครื่องมือสำคัญในการแสวงหาข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาการศึกษา” ด้วยเหตุนี้การวิจัยจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญและสามารถนำมาใช้ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม

O – Research (Opportunities for research development) การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนางานตามภารกิจ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการในฐานะหน่วยงานสนับสนุนการจัดการศึกษาให้ความสำคัญต่อการวิจัยและสร้างนวัตกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายการศึกษาเพื่อให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องสามารถนำผลวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในหลากหลายมิติของการพัฒนาการศึกษาตามภารกิจของหน่วยงานทั้งการพัฒนานโยบายการศึกษา การพัฒนากระบวนการเรียนการสอน การพัฒนาหลักสูตร การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา การพัฒนาการวัดและประเมินผล การส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษา และยกระดับคุณภาพของผู้เรียน

E – Research (Enhancing Research Capacity) การเพิ่มขีดความสามารถในการวิจัย นอกจากการสนับสนุนด้านงบประมาณแล้ว สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของนักวิจัยทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่า ซึ่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการมีแนวคิดว่า “ไม่ว่าจะทำงานใดก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องมีการแสวงหาองค์ความรู้ใหม่ ๆ และใช้กระบวนการวิจัยที่น่าเชื่อถือมาสนับสนุนการทำงาน” ซึ่งทำให้เห็นว่า ในกระบวนการสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ และการส่งเสริมให้นักวิจัยรุ่นเก่า มีความเป็นนักวิจัยมืออาชีพ มีประสบการณ์และสามารถต่อยอดงานวิจัยได้นั้นถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานให้กับระบบวิจัยของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

       ปัจจุบันสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาได้มีการพัฒนา OPS MOE Research ซึ่งเป็นฐานข้อมูลวิจัยของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้ลิงก์ opsresearch.moe.go.th อันจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลงานวิจัย ที่ดำเนินการโดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการอย่างมีระเบียบและเป็นระบบ นอกจากนี้ยังเป็นช่องทางในการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ข้อมูลและผลงานวิจัยได้ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งในและนอกภาครัฐ ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและการตระหนักรู้ในผลกระทบและคุณค่าของงานวิจัยที่สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการมาจนกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ

       งานวิจัยคือหัวใจสำคัญในการพลิกโฉมการศึกษาไทย สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กำลังเดินหน้าวางระบบนิเวศการวิจัยที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างนวัตกรรมการศึกษาที่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศในยุคทัลและเตรียมความพร้อมให้กับคนไทยสำหรับการก้าวสู่โลกอนาคตอย่างยั่งยืน มาร่วมกันผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการเพื่อเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาต่อไป หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือและนำแนวทางนโยบายที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงบริบทของแต่ละพื้นที่ มาเป็นกรอบในการสรรค์สร้างงานวิจัย และใช้ผลการวิจัยนั้นเป็นข้อมูลในการยกระดับคุณภาพการศึกษาในอนาคต

สรุปผลงานกระทรวงศึกษาธิการ รอบ 1 ปี (กันยายน 2566 - ปัจจุบัน)

เว็บไซต์หน่วยงาน : 

เว็บไซต์ กระทรวงศึกษาธิการ

https://www.moe.go.th/

เว็บไซต์ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

https://ops.moe.go.th/

ข่าว ศธ.360 องศา

https://moe360.blog/

Facebook กระทรวงศึกษาธิการ

https://www.facebook.com/moe.sueksa.th

Facebook ศธ.360 องศา

https://www.facebook.com/MOE360degree

X กระทรวงศึกษาธิการ

https://twitter.com/moe_net

X กศธ.360 องศา

https://twitter.com/MOE360degree

YouTube ศธ.360 องศา 

https://www.youtube.com/channel/UCMxCmk-wxf1N5hh0wszCMqg

กระทรวงศึกษาธิการ
319 สั่งจันทรเกษม ถนนราชดำเนินนอก เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
นิทรรศการของหน่วยงานอื่นๆ
Background Desktop Background Mobile