นิทรรศการของหน่วยงาน > กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงสาธารณสุข
Ministry of Public Health
เลือกหน่วยงานสังกัดภายใต้กระทรวง

บทบาท/ภารกิจของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

 

องค์กรหลักด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกที่ผสานพลังภาคีเครือข่าย เพื่อการพึ่งตนเองด้านสุขภาพและหนุนเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

 

1. โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรอัจฉริยะ

  1. ดำเนินการจัดประชุมติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรอัจฉริยะ การพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญอัจฉริยะด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร (Panthai AI Doctor)
  1. ดำเนินการศึกษาวิจัย และพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญอัจฉริยะด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร (Panthai AI Doctor) ได้แก่

2.1) เสนอโครงงานวิจัยต่อคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน ครั้งที่ 2 และได้มติอนุมัติรับรองโครงการวิจัย "การจัดเตรียมข้อมูลเวชระเบียนทางการแพทย์แผนไทยในรูปแบบ  อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาต้นแบบระบบช่วยวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนไทยด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Panthai AI Doctor)" เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567

2.2) พัฒนาแพลตฟอร์มเวชระเบียนทางการแพทย์แผนไทยในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

2.3) รวบรวมองค์ความรู้ของแพทย์แผนไทยจากประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย จำนวน 5 กลุ่มโรค เข้าสู่แพลตฟอร์มเวชระเบียนทางการแพทย์แผนไทยในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเทรนนิ่งโมเดลทางปัญญาประดิษฐ์

(2.4) ออกแบบ และพัฒนากราฟความรู้ (Knowledge Graph)

(2.5) ออกแบบ และพัฒนาโมเดลทางปัญญาประดิษฐ์

  1. ดำเนินการออกแบบ พัฒนากราฟความรู้ (Knowledge Graph), โมเดลทางปัญญาประดิษฐ์เพื่อรองรับแอปพลิเคชันโต้ตอบอัตโนมัติ (Panthai Chatbot)

 

 

2. โครงการยกระดับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเพื่อลดอันตรายจากยาเสพติดอย่างบูรณาการร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันและระบบสุขภาพชุมชน

       กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้มีการดำเนินโครงการยกระดับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเพื่อลดอันตรายจากยาเสพติด อย่างบูรณาการร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันและระบบสุขภาพชุมชนประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมุ่งเน้นศึกษาต้นแบบการดำเนินการจัดบริการลดอันตรายจากยาเสพติดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นการรักษาโดยเน้นการใช้สมุนไพร และศาสตร์องค์รวม ซึ่งจากผลการดำเนินโครงการได้มีคู่มือการบำบัดยาเสพติดด้วยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน (Harm Reduction Thai Traditional Medicine) รวมถึงแนวทางในการดำเนินการจัดบริการบำบัดยาเสพติด 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การเตรียมการ 2) การบำบัดด้วยยา 3) การฟื้นฟูสมรรถภาพ และ 4) การติดตาม โดยได้มีการจัดบริการคลินิกนำร่องการบำบัดยาเสพติดอย่างบูรณาการฯ 3 จังหวัด ศูนย์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สังกัดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก คือ กรุงเทพมหานคร (ยศเส) จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดพัทลุง อีกทั้งการร่วมบำบัดกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx) กระทรวงกลาโหม (ตำรวจ/ทหาร) และหน่วยบริการภายใต้สังกัดปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยมีสถิติเข้ารับบริการจำนวนทั้งหมด 1,102 ราย แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับการบำบัดรักษาด้วยยาสมุนไพรจำนวน 519 ราย และผู้ที่ได้รับการให้สุขศึกษาและคำแนะนำด้านสมุนไพร จำนวน 583 ราย ซึ่งพบว่ามีประสิทธิผลที่ดีจากการเข้ารับการบำบัดรักษา  การเพิ่มคุณภาพชีวิต และความพึงพอใจทั้งตัวผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ และผู้ดูแล รวมถึงภาคีเครือข่าย

บทบาท/ภารกิจของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

 

องค์กรหลักด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกที่ผสานพลังภาคีเครือข่าย เพื่อการพึ่งตนเองด้านสุขภาพและหนุนเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

 

1. โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรอัจฉริยะ

  1. ดำเนินการจัดประชุมติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรอัจฉริยะ การพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญอัจฉริยะด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร (Panthai AI Doctor)
  1. ดำเนินการศึกษาวิจัย และพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญอัจฉริยะด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร (Panthai AI Doctor) ได้แก่

2.1) เสนอโครงงานวิจัยต่อคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน ครั้งที่ 2 และได้มติอนุมัติรับรองโครงการวิจัย "การจัดเตรียมข้อมูลเวชระเบียนทางการแพทย์แผนไทยในรูปแบบ  อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาต้นแบบระบบช่วยวินิจฉัยโรคทางการแพทย์แผนไทยด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Panthai AI Doctor)" เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567

2.2) พัฒนาแพลตฟอร์มเวชระเบียนทางการแพทย์แผนไทยในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

2.3) รวบรวมองค์ความรู้ของแพทย์แผนไทยจากประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย จำนวน 5 กลุ่มโรค เข้าสู่แพลตฟอร์มเวชระเบียนทางการแพทย์แผนไทยในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเทรนนิ่งโมเดลทางปัญญาประดิษฐ์

(2.4) ออกแบบ และพัฒนากราฟความรู้ (Knowledge Graph)

(2.5) ออกแบบ และพัฒนาโมเดลทางปัญญาประดิษฐ์

  1. ดำเนินการออกแบบ พัฒนากราฟความรู้ (Knowledge Graph), โมเดลทางปัญญาประดิษฐ์เพื่อรองรับแอปพลิเคชันโต้ตอบอัตโนมัติ (Panthai Chatbot)

 

 

2. โครงการยกระดับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเพื่อลดอันตรายจากยาเสพติดอย่างบูรณาการร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันและระบบสุขภาพชุมชน

       กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้มีการดำเนินโครงการยกระดับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเพื่อลดอันตรายจากยาเสพติด อย่างบูรณาการร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันและระบบสุขภาพชุมชนประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมุ่งเน้นศึกษาต้นแบบการดำเนินการจัดบริการลดอันตรายจากยาเสพติดด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นการรักษาโดยเน้นการใช้สมุนไพร และศาสตร์องค์รวม ซึ่งจากผลการดำเนินโครงการได้มีคู่มือการบำบัดยาเสพติดด้วยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน (Harm Reduction Thai Traditional Medicine) รวมถึงแนวทางในการดำเนินการจัดบริการบำบัดยาเสพติด 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การเตรียมการ 2) การบำบัดด้วยยา 3) การฟื้นฟูสมรรถภาพ และ 4) การติดตาม โดยได้มีการจัดบริการคลินิกนำร่องการบำบัดยาเสพติดอย่างบูรณาการฯ 3 จังหวัด ศูนย์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สังกัดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก คือ กรุงเทพมหานคร (ยศเส) จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดพัทลุง อีกทั้งการร่วมบำบัดกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx) กระทรวงกลาโหม (ตำรวจ/ทหาร) และหน่วยบริการภายใต้สังกัดปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยมีสถิติเข้ารับบริการจำนวนทั้งหมด 1,102 ราย แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับการบำบัดรักษาด้วยยาสมุนไพรจำนวน 519 ราย และผู้ที่ได้รับการให้สุขศึกษาและคำแนะนำด้านสมุนไพร จำนวน 583 ราย ซึ่งพบว่ามีประสิทธิผลที่ดีจากการเข้ารับการบำบัดรักษา  การเพิ่มคุณภาพชีวิต และความพึงพอใจทั้งตัวผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ และผู้ดูแล รวมถึงภาคีเครือข่าย

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
เลขที่ 88/23 หมู่ 4 ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000

บทบาท/ภารกิจของกรมควบคุมโรค

 

กลุ่มงานจริยธรรม กรมควบคุมโรค

1) เผยแพร่ ปลูกฝัง ส่งเสริม ยกย่องข้าราชการที่เป็นแบบอย่างที่ดี และติดตามสอดส่องการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนอย่างสม่ำเสมอ

2) ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการจริยธรรมประจำส่วนราชการ

3) เสนอแนะแก่หัวหน้าส่วนราชการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของส่วนราชการ รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของส่วนราชการ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง

4) ติดตาม ประเมินผล และจัดทำรายงานด้านการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และต่อต้านการทุจริตของส่วนราชการ เสนอหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกรมควบคุมโรค

 

1. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพโค้ช STRONG – องค์กรพอเพียงต้านทุจริต

       กรมควบคุมโรค ดำเนินการจัดส่งบุคลากรทุกหน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรค จำนวน 50 คน เข้าร่วมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพโค้ช STRONG – องค์กรพอเพียงต้านทุจริต (ครั้งที่ 2) ภายใต้โครงการ STRONG - องค์กรพอเพียงต้านทุจริต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 17 - 18 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมรอยัล ซิตี้ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรนำโมเดล STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต สร้างค่านิยมองค์กรที่มีวัฒนธรรมไม่ทนต่อการทุจริต ยกระดับความโปร่งใส ไร้สินบนภายในองค์กรผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการจัดตั้งชมรม STRONG และกำหนดแนวทางแผนงานโครงการ ตามบริบทขององค์กรสู่การขยายผลอย่างเป็นรูปธรรม

 

2. ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรภาครัฐให้มีความเป็นผู้นำด้านคุณธรรม จริยธรรม เพื่อขับเคลื่อนการเสริมสร้างองค์กรคุณธรรม

       กรมควบคุมโรค โดยกลุ่มงานจริยธรรมดำเนินการจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรภาครัฐให้มีความเป็นผู้นำด้านคุณธรรม จริยธรรม เพื่อขับเคลื่อนการเสริมสร้างองค์กรคุณธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในวันพุธที่ 25 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น นาดา ดอนเมือง แอร์พอร์ต และวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 (บางเขน) กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผู้นำด้านคุณธรรม จริยธรรม ของทุกหน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรค โดยสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ที่สำคัญ เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้มีระบบนิเวศคุณธรรม และสานพลังเครือข่ายระหว่างองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมอย่างมีส่วนร่วม สร้างสรรค์นวัตกรรมจริยธรรม ต่อยอดการพัฒนาผลงานให้เกิดประสิทธิภาพต่อกระบวนงานและภาพลักษณ์ของกรมควบคุมโรคมุ่งหวังให้กรมควบคุมโรคเป็นสังคมคุณธรรมต้นแบบและปลอดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างยั่งยืน

บทบาท/ภารกิจของกรมควบคุมโรค

 

กลุ่มงานจริยธรรม กรมควบคุมโรค

1) เผยแพร่ ปลูกฝัง ส่งเสริม ยกย่องข้าราชการที่เป็นแบบอย่างที่ดี และติดตามสอดส่องการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนอย่างสม่ำเสมอ

2) ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการจริยธรรมประจำส่วนราชการ

3) เสนอแนะแก่หัวหน้าส่วนราชการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของส่วนราชการ รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของส่วนราชการ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง

4) ติดตาม ประเมินผล และจัดทำรายงานด้านการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และต่อต้านการทุจริตของส่วนราชการ เสนอหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกรมควบคุมโรค

 

1. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพโค้ช STRONG – องค์กรพอเพียงต้านทุจริต

       กรมควบคุมโรค ดำเนินการจัดส่งบุคลากรทุกหน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรค จำนวน 50 คน เข้าร่วมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพโค้ช STRONG – องค์กรพอเพียงต้านทุจริต (ครั้งที่ 2) ภายใต้โครงการ STRONG - องค์กรพอเพียงต้านทุจริต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 17 - 18 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมรอยัล ซิตี้ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรนำโมเดล STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต สร้างค่านิยมองค์กรที่มีวัฒนธรรมไม่ทนต่อการทุจริต ยกระดับความโปร่งใส ไร้สินบนภายในองค์กรผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการจัดตั้งชมรม STRONG และกำหนดแนวทางแผนงานโครงการ ตามบริบทขององค์กรสู่การขยายผลอย่างเป็นรูปธรรม

 

2. ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรภาครัฐให้มีความเป็นผู้นำด้านคุณธรรม จริยธรรม เพื่อขับเคลื่อนการเสริมสร้างองค์กรคุณธรรม

       กรมควบคุมโรค โดยกลุ่มงานจริยธรรมดำเนินการจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรภาครัฐให้มีความเป็นผู้นำด้านคุณธรรม จริยธรรม เพื่อขับเคลื่อนการเสริมสร้างองค์กรคุณธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในวันพุธที่ 25 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น นาดา ดอนเมือง แอร์พอร์ต และวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 (บางเขน) กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผู้นำด้านคุณธรรม จริยธรรม ของทุกหน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรค โดยสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ที่สำคัญ เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้มีระบบนิเวศคุณธรรม และสานพลังเครือข่ายระหว่างองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมอย่างมีส่วนร่วม สร้างสรรค์นวัตกรรมจริยธรรม ต่อยอดการพัฒนาผลงานให้เกิดประสิทธิภาพต่อกระบวนงานและภาพลักษณ์ของกรมควบคุมโรคมุ่งหวังให้กรมควบคุมโรคเป็นสังคมคุณธรรมต้นแบบและปลอดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างยั่งยืน

กรมควบคุมโรค
กลุ่มงานจริยธรรม กรมควบคุมโรค ชั้น 4 อาคาร 3 88/21 ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 0-2590-3045
อีเมล: ethics@ddc.mail.go.th

บทบาท/ภารกิจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

 

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

 

1. โครงการเฉลิมพระเกียรติฯ “โครงการตรวจ NAT2 diplotype ด้วยเทคนิค Real-time PCR เพื่อใช้ประกอบการปรับระดับยาต้านวัณโรค Isoniazid”

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดโครงการตรวจยีน NAT2 เพื่อใช้ประกอบการปรับระดับยาต้านวัณโรค เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

วัณโรคเป็นโรคติดเชื้อที่เป็นปัญหาทางสาธารณสุขของหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งประเทศไทย เป็น 1 ใน 30 ประเทศที่มีภาระวัณโรคสูง โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่และกลับมาเป็นซ้ำกว่า 80,000 คนต่อปี และเสียชีวิตประมาณ 7,800 รายต่อปี การรักษาวัณโรคจำเป็นต้องให้ผู้ป่วยได้รับยาต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งผลข้างเคียงของยาต้านวัณโรคทำให้มีอาการตับอักเสบ ผู้ป่วยบางรายจึงต้องหยุดยา การรักษาจึงไม่มีประสิทธิภาพ

ผู้ป่วยวัณโรคประมาณร้อยละ 5-10 มีภาวะตับอักเสบจากยาต้านวัณโรค ซึ่งทำให้การรักษาวัณโรคเป็นไปอย่างยากลำบาก ยีน NAT2 มีหน้าที่ในการย่อยสลายยาต้านวัณโรค Isoniazid ทำให้แต่ละบุคคลมีความสามารถในการย่อยสลายยาแตกต่างกัน ซึ่งหากมียีน NAT2 เป็นแบบย่อยสลายยาช้า จะทำให้มีโอกาสเกิดตับอักเสบสูงกว่าแบบอื่นถึง 8.8 เท่า และประชากรไทยร้อยละ 40 มีการย่อยสลายยาช้า ดังนั้นการตรวจยีน NAT2 จะช่วยให้แพทย์ผู้รักษาสามารถตัดสินใจในการปรับระดับยา Isoniazid ให้เหมาะสมกับผู้ป่วยวัณโรค

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงได้จัดทำโครงการตรวจวิเคราะห์ NAT2 diplotype ด้วยเทคนิค Real-time PCR เพื่อใช้ประกอบการปรับระดับยาต้านวัณโรค Isoniazid ในผู้ป่วยวัณโรค จำนวน 10,000 ราย เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และส่งเสริมให้ประชาชนชาวไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรค

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอเชิญชวนหน่วยบริการสาธารณสุข โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนสามารถส่งตัวอย่างเลือดผู้ป่วยวัณโรค ตรวจ NAT2 diplotype โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ที่สถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 15 แห่ง ทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 029510000 ต่อ 98095 หรือ 98096

 
 
2. โครงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเชิงรุก ด้วยตนเอง
 
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมาก 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย สาเหตุสำคัญมาจากการติดเชื้อเอชพีวี ส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ และมากกว่าร้อยละ 90 จะหายได้เอง มะเร็งปากมดลูกป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนเอชพีวี นอกจากนี้การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้สตรีไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก 5 ปี ที่ผ่านมาพบว่าหญิงไทยกลุ่มเป้าหมาย เข้ารับการตรวจคัดกรองได้น้อย ส่วนหนึ่งมาจากการไม่มารับการตรวจภายในเนื่องจากเขินอายแพทย์
 
ดังนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงเพิ่มทางเลือกให้หญิงไทยที่ไม่เข้ารับการตรวจคัดกรองให้สามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ง่ายขึ้นโดยใช้ชุดเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง (HPV Self-Sampling) โดยบูรณาการทำงานเชิงรุกร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็ง หรือหากตรวจพบมะเร็งก็สามารถพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรกทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มโอกาสในการรักษาหายขาดได้

 

3. โครงการพัฒนาเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2549 และดำเนินการอย่างต่อเนื่องภายใต้แผนยุทธศาสตร์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระยะ 20 ปี ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค สนับสนุนและเสริมสร้างการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความยั่งยืน การนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ไปสู่การสร้างสุขภาวะของชุมชน หรือ “Community Medical Sciences for health : Com Med Sci for health” ซึ่งมีกิจกรรมหลัก 2 ด้าน (2 D) คือ การแจ้งเตือนภัยสุขภาพ (Detection) และการพัฒนาคุณภาพและกระบวนการผลิต (Development)

ที่ผ่านมามีการพัฒนาเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน ในเรื่องการแจ้งเตือนภัยสุขภาพ (Detection) มีการพัฒนาศูนย์แจ้งเตือนภัยสุขภาพผ่านเกณฑ์คุณภาพ และพัฒนา อสม. ให้มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ จนเป็น อสม.วิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน สำหรับเฝ้าระวังแจ้งเตือนผลิตภัณฑ์สุขภาพอันตรายในชุมชน การใช้ชุดทดสอบด้านยา อาหาร และเครื่องสำอาง ชุดทดสอบกัญชา ชุดตรวจ ATK การใช้งานฐานข้อมูล กรมวิทย์ With you การรายงานผลในแอพพลิเคชั่น H4U และ Smart อสม. การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ฯลฯ โดยมี อสม.ผ่านการประเมินเป็น อสม.วิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน สามารถนำความรู้ไปใช้ในการคัดกรองผลิตภัณฑ์สุขภาพ สื่อสารแจ้งเตือนข่าวร้ายกระจายข่าวดี เกิดการบริหารจัดการงานคุ้มครองผู้บริโภคของชุมชน

สำหรับการพัฒนาคุณภาพและกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชน (Development) ได้พัฒนากระบวนการผลิตหรือคุณภาพผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการ OTOP/SMEs ให้มีคุณภาพมาตรฐานและมีความปลอดภัย รวมทั้งพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้พร้อมสู่กระบวนการขอรับรองมาตรฐาน โดยแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร สามารถยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนด้านอาหารและเครื่องสำอางสมุนไพรสู่ Safety Product, Smart product และ Sustainable Smart product ทั้งนี้ อสม. หรือผู้ประกอบการ OTOP/SMEs ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ในพื้นที่ภูมิภาคต่าง ๆ

 

ช่องทางการติดต่อสื่อสาร : LINE Official @dmscnews

บทบาท/ภารกิจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

 

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

 

1. โครงการเฉลิมพระเกียรติฯ “โครงการตรวจ NAT2 diplotype ด้วยเทคนิค Real-time PCR เพื่อใช้ประกอบการปรับระดับยาต้านวัณโรค Isoniazid”

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดโครงการตรวจยีน NAT2 เพื่อใช้ประกอบการปรับระดับยาต้านวัณโรค เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

วัณโรคเป็นโรคติดเชื้อที่เป็นปัญหาทางสาธารณสุขของหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งประเทศไทย เป็น 1 ใน 30 ประเทศที่มีภาระวัณโรคสูง โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่และกลับมาเป็นซ้ำกว่า 80,000 คนต่อปี และเสียชีวิตประมาณ 7,800 รายต่อปี การรักษาวัณโรคจำเป็นต้องให้ผู้ป่วยได้รับยาต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งผลข้างเคียงของยาต้านวัณโรคทำให้มีอาการตับอักเสบ ผู้ป่วยบางรายจึงต้องหยุดยา การรักษาจึงไม่มีประสิทธิภาพ

ผู้ป่วยวัณโรคประมาณร้อยละ 5-10 มีภาวะตับอักเสบจากยาต้านวัณโรค ซึ่งทำให้การรักษาวัณโรคเป็นไปอย่างยากลำบาก ยีน NAT2 มีหน้าที่ในการย่อยสลายยาต้านวัณโรค Isoniazid ทำให้แต่ละบุคคลมีความสามารถในการย่อยสลายยาแตกต่างกัน ซึ่งหากมียีน NAT2 เป็นแบบย่อยสลายยาช้า จะทำให้มีโอกาสเกิดตับอักเสบสูงกว่าแบบอื่นถึง 8.8 เท่า และประชากรไทยร้อยละ 40 มีการย่อยสลายยาช้า ดังนั้นการตรวจยีน NAT2 จะช่วยให้แพทย์ผู้รักษาสามารถตัดสินใจในการปรับระดับยา Isoniazid ให้เหมาะสมกับผู้ป่วยวัณโรค

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงได้จัดทำโครงการตรวจวิเคราะห์ NAT2 diplotype ด้วยเทคนิค Real-time PCR เพื่อใช้ประกอบการปรับระดับยาต้านวัณโรค Isoniazid ในผู้ป่วยวัณโรค จำนวน 10,000 ราย เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และส่งเสริมให้ประชาชนชาวไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรค

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอเชิญชวนหน่วยบริการสาธารณสุข โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนสามารถส่งตัวอย่างเลือดผู้ป่วยวัณโรค ตรวจ NAT2 diplotype โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ที่สถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 15 แห่ง ทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 029510000 ต่อ 98095 หรือ 98096

 
 
2. โครงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเชิงรุก ด้วยตนเอง
 
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมาก 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย สาเหตุสำคัญมาจากการติดเชื้อเอชพีวี ส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ และมากกว่าร้อยละ 90 จะหายได้เอง มะเร็งปากมดลูกป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนเอชพีวี นอกจากนี้การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้สตรีไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก 5 ปี ที่ผ่านมาพบว่าหญิงไทยกลุ่มเป้าหมาย เข้ารับการตรวจคัดกรองได้น้อย ส่วนหนึ่งมาจากการไม่มารับการตรวจภายในเนื่องจากเขินอายแพทย์
 
ดังนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงเพิ่มทางเลือกให้หญิงไทยที่ไม่เข้ารับการตรวจคัดกรองให้สามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ง่ายขึ้นโดยใช้ชุดเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง (HPV Self-Sampling) โดยบูรณาการทำงานเชิงรุกร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็ง หรือหากตรวจพบมะเร็งก็สามารถพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรกทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มโอกาสในการรักษาหายขาดได้

 

3. โครงการพัฒนาเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2549 และดำเนินการอย่างต่อเนื่องภายใต้แผนยุทธศาสตร์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระยะ 20 ปี ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค สนับสนุนและเสริมสร้างการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความยั่งยืน การนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ไปสู่การสร้างสุขภาวะของชุมชน หรือ “Community Medical Sciences for health : Com Med Sci for health” ซึ่งมีกิจกรรมหลัก 2 ด้าน (2 D) คือ การแจ้งเตือนภัยสุขภาพ (Detection) และการพัฒนาคุณภาพและกระบวนการผลิต (Development)

ที่ผ่านมามีการพัฒนาเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน ในเรื่องการแจ้งเตือนภัยสุขภาพ (Detection) มีการพัฒนาศูนย์แจ้งเตือนภัยสุขภาพผ่านเกณฑ์คุณภาพ และพัฒนา อสม. ให้มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ จนเป็น อสม.วิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน สำหรับเฝ้าระวังแจ้งเตือนผลิตภัณฑ์สุขภาพอันตรายในชุมชน การใช้ชุดทดสอบด้านยา อาหาร และเครื่องสำอาง ชุดทดสอบกัญชา ชุดตรวจ ATK การใช้งานฐานข้อมูล กรมวิทย์ With you การรายงานผลในแอพพลิเคชั่น H4U และ Smart อสม. การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ฯลฯ โดยมี อสม.ผ่านการประเมินเป็น อสม.วิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน สามารถนำความรู้ไปใช้ในการคัดกรองผลิตภัณฑ์สุขภาพ สื่อสารแจ้งเตือนข่าวร้ายกระจายข่าวดี เกิดการบริหารจัดการงานคุ้มครองผู้บริโภคของชุมชน

สำหรับการพัฒนาคุณภาพและกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชน (Development) ได้พัฒนากระบวนการผลิตหรือคุณภาพผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการ OTOP/SMEs ให้มีคุณภาพมาตรฐานและมีความปลอดภัย รวมทั้งพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้พร้อมสู่กระบวนการขอรับรองมาตรฐาน โดยแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร สามารถยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนด้านอาหารและเครื่องสำอางสมุนไพรสู่ Safety Product, Smart product และ Sustainable Smart product ทั้งนี้ อสม. หรือผู้ประกอบการ OTOP/SMEs ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ในพื้นที่ภูมิภาคต่าง ๆ

 

ช่องทางการติดต่อสื่อสาร : LINE Official @dmscnews

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
88/7 ซอยติวานนท์ 14 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี
โทรศัพท์: 0-2951-0000
อีเมล: saraban@dmsc.mail.go.th / saraban@dmsc.mail.go.th / prdmsc@dmsc.mail.go.th / onestop@dmsc.mail.go.th

บทบาท/ภารกิจของกรมอนามัย

 

       มีภารกิจในการส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดี โดยมีการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการส่งเสริมสุขภาพ การจัดการปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ และการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี รวมทั้งการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อมุ่งเน้นให้ประชาชนมีความรู้และทักษะในการดูแลตนเอง ครอบครัวและชุมชน

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกรมอนามัย

 

1. วันที่ 11 ธันวาคม 2567 กรมอนามัย โดยกองการเจ้าหน้าที่ จัดพิธีประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตและไม่รับของขวัญและของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (No Gift Policy) กรมอนามัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ภายใต้แนวคิด “กรมอนามัยใสสะอาด องค์กรคุณภาพ คู่คุณธรรม (DoH Together Against Corruption)” เพื่อแสดงถึงเจตจำนงและคำมั่นของผู้บริหารหน่วยงานในการนำองค์กรด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และบริหารงานให้เป็นไปตามหลัก      ธรรมาภิบาล รวมถึงเพื่อแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมของผู้บริหารและบุคลากรที่จะไม่รับของขวัญหรือของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ขับเคลื่อนองค์กรกรมอนามัยสู่เป้าหมาย “กรมอนามัยใสสะอาด องค์กรคุณภาพ คู่คุณธรรม” ตลอดจนเป็นไปตามเกณฑ์การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA)

 

2. กลุ่มงานจริยธรรม กองการเจ้าหน้าที่ กรมอนามัย จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรตามมาตรฐานคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA) ระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมลาโค่ เขาใหญ่ เอ ชาเทรียม คอลเลคชั่น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับเกียรติจากรองอธิบดีกรมอนามัย (แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ผ่านทางออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดประชุมเพื่อให้หน่วยงานในสังกัดกรมอนามัย สามารถพัฒนาการบริหารงานและดำเนินงานภายใต้เกณฑ์การประเมิน (ITA) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงการทุจริต และความเสี่ยงด้านจริยธรรมของบุคลากรกรมอนามัยบรรลุค่าเป้าหมาย ITA ที่กำหนดให้เกิดประสิทธิภาพและเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลซึ่งมีบุคลากรกรมอนามัยเข้าร่วมประชุมจำนวนทั้งสิ้น 82 คน ทั้งนี้ในการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ วันที่ 4 พ.ย. 67 ได้จัดให้มีการบรรยาย “สรุปผลการดำเนินงานคุณธรรมและความโปร่งใสกรมอนามัยประจำปี 2567" และ “หลักเกณฑ์ตัวชี้วัด 2.1 ระดับความสำเร็จของการดำเนินงานคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA)" ส่วนในวันที่ 5 พ.ย. 67 ได้จัดการบรรยาย “ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2566" และจัดกิจกรรมกลุ่มฝึกปฏิบัติ “วิเคราะห์ความเสี่ยงการทุจริตด้านการบริหารงานบุคคล" ส่วนในภาคบ่ายได้จัดบรรยาย “แนวทางการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการส่งเสริมคุณธรรมฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568" และจัดกิจกรรมกลุ่มฝึกปฏิบัติ “จัดทำร่างแผนปฏิบัติการส่งเสริมคุณธรรมฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568" และในวันที่ 6 พ.ย. 67 ได้มีการบรรยาย “แนวทางการคัดเลือกคนดีศรีอนามัยระดับหน่วยงาน ประจำปี 2567" “รางวัลเกียรติยศคนกรมอนามัย" และ “การขับเคลื่อนองค์กรคุณธรรมต้นแบบ ประจำปี 2568 เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดกรมอนามัยสามารถนำความรู้ที่ได้จากการบรรยายและร่วมกิจกรรมกลุ่มไปเป็นแนวทางในดำเนินการของหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

3. วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 กองการเจ้าหน้าที่ กรมอนามัย จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารกรมอนามัย หัวข้อ เทคนิคการบริหารงบประมาณสำหรับผู้บริหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายเงินให้คุ้มค่าโดยได้รับเกียรติจาก อาจารย์น้อง เจริญนาค ผู้อำนวยการกองจัดทำงบประมาณด้านสังคม 3 สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นวิทยากรให้ความรู้

บทบาท/ภารกิจของกรมอนามัย

 

       มีภารกิจในการส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดี โดยมีการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการส่งเสริมสุขภาพ การจัดการปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ และการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี รวมทั้งการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อมุ่งเน้นให้ประชาชนมีความรู้และทักษะในการดูแลตนเอง ครอบครัวและชุมชน

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกรมอนามัย

 

1. วันที่ 11 ธันวาคม 2567 กรมอนามัย โดยกองการเจ้าหน้าที่ จัดพิธีประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตและไม่รับของขวัญและของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (No Gift Policy) กรมอนามัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ภายใต้แนวคิด “กรมอนามัยใสสะอาด องค์กรคุณภาพ คู่คุณธรรม (DoH Together Against Corruption)” เพื่อแสดงถึงเจตจำนงและคำมั่นของผู้บริหารหน่วยงานในการนำองค์กรด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และบริหารงานให้เป็นไปตามหลัก      ธรรมาภิบาล รวมถึงเพื่อแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมของผู้บริหารและบุคลากรที่จะไม่รับของขวัญหรือของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ขับเคลื่อนองค์กรกรมอนามัยสู่เป้าหมาย “กรมอนามัยใสสะอาด องค์กรคุณภาพ คู่คุณธรรม” ตลอดจนเป็นไปตามเกณฑ์การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA)

 

2. กลุ่มงานจริยธรรม กองการเจ้าหน้าที่ กรมอนามัย จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรตามมาตรฐานคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA) ระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมลาโค่ เขาใหญ่ เอ ชาเทรียม คอลเลคชั่น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับเกียรติจากรองอธิบดีกรมอนามัย (แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ผ่านทางออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดประชุมเพื่อให้หน่วยงานในสังกัดกรมอนามัย สามารถพัฒนาการบริหารงานและดำเนินงานภายใต้เกณฑ์การประเมิน (ITA) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงการทุจริต และความเสี่ยงด้านจริยธรรมของบุคลากรกรมอนามัยบรรลุค่าเป้าหมาย ITA ที่กำหนดให้เกิดประสิทธิภาพและเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลซึ่งมีบุคลากรกรมอนามัยเข้าร่วมประชุมจำนวนทั้งสิ้น 82 คน ทั้งนี้ในการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ วันที่ 4 พ.ย. 67 ได้จัดให้มีการบรรยาย “สรุปผลการดำเนินงานคุณธรรมและความโปร่งใสกรมอนามัยประจำปี 2567" และ “หลักเกณฑ์ตัวชี้วัด 2.1 ระดับความสำเร็จของการดำเนินงานคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA)" ส่วนในวันที่ 5 พ.ย. 67 ได้จัดการบรรยาย “ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2566" และจัดกิจกรรมกลุ่มฝึกปฏิบัติ “วิเคราะห์ความเสี่ยงการทุจริตด้านการบริหารงานบุคคล" ส่วนในภาคบ่ายได้จัดบรรยาย “แนวทางการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการส่งเสริมคุณธรรมฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568" และจัดกิจกรรมกลุ่มฝึกปฏิบัติ “จัดทำร่างแผนปฏิบัติการส่งเสริมคุณธรรมฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568" และในวันที่ 6 พ.ย. 67 ได้มีการบรรยาย “แนวทางการคัดเลือกคนดีศรีอนามัยระดับหน่วยงาน ประจำปี 2567" “รางวัลเกียรติยศคนกรมอนามัย" และ “การขับเคลื่อนองค์กรคุณธรรมต้นแบบ ประจำปี 2568 เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดกรมอนามัยสามารถนำความรู้ที่ได้จากการบรรยายและร่วมกิจกรรมกลุ่มไปเป็นแนวทางในดำเนินการของหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

3. วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 กองการเจ้าหน้าที่ กรมอนามัย จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารกรมอนามัย หัวข้อ เทคนิคการบริหารงบประมาณสำหรับผู้บริหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายเงินให้คุ้มค่าโดยได้รับเกียรติจาก อาจารย์น้อง เจริญนาค ผู้อำนวยการกองจัดทำงบประมาณด้านสังคม 3 สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นวิทยากรให้ความรู้

กรมอนามัย
88/22 ม.4 ถ.ติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: สายด่วน 1478, 0-2590-4000, 0-2590-4884
โทรสาร: 0-2590-4094
อีเมล: saraban@anamai.mail.go.th

บทบาท/ภารกิจของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

 

       ภารกิจตามกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีภารกิจเกี่ยวกับการปกป้องและคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยผลิตภัณฑ์สุขภาพเหล่านั้นต้องมีคุณภาพและปลอดภัย ส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคที่ถูกต้องด้วยข้อมูลทางวิชาการที่มีหลักฐานเชื่อถือได้และมีความเหมาะสม เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ปลอดภัยและสมประโยชน์ โดยมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

1) ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการใช้สารระเหย กฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยเครื่องมือแพทย์ กฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง กฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพร กฎหมายว่าด้วยยา กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ กฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท กฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย กฎหมายว่าด้วยอาหาร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

2) พัฒนาระบบและกลไก เพื่อให้มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบ

3) เฝ้าระวัง กำกับ และตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์สุขภาพ สถานประกอบการ และการโฆษณา รวมทั้งผลอันไม่พึงประสงค์ของผลิตภัณฑ์สุขภาพ การพัฒนาระบบความปลอดภัย ด้านสารเคมีของประเทศ และเป็นแกนกลางร่วมดำเนินการกับองค์กรระหว่างประเทศด้านสารเคมี ตลอดจนมีการติดตามหรือเฝ้าระวังข้อมูลข่าวสารด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพจากภายในประเทศและภายนอกประเทศ

4) ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และระบบงานคุ้มครองผู้บริโภค ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

5) ส่งเสริมและพัฒนาผู้บริโภคให้มีศักยภาพในการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย และคุ้มค่า รวมทั้งการร้องเรียนเพื่อปกป้องสิทธิของตนได้

6) พัฒนาและส่งเสริมการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยการมีส่วนร่วมของภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ประชาชน และเครือข่ายประชาคมสุขภาพ

7) พัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อให้งานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภค และผลประโยชน์ของประเทศชาติ

8) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของสำนักงาน หรือตามที่รัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

 

โครงการติดปีก อย.ไทย “Elevate Thai FDA”

       อย. เป็นองค์กรหลักด้านคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมผู้ประกอบการด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อประชาชนสุขภาพดี อย. ได้พัฒนาระบบการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์สุขภาพให้ทันสมัยและเป็นสากล มุ่งยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภค การอนุมัติ อนุญาตที่เป็นมาตรฐานสากล ทันสมัย โปร่งใส ร่วมสร้างความมั่งคั่ง สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ปรับปรุงกระบวนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากล และผลักดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ ให้ความสำคัญกับการให้บริการอนุมัติ อนุญาต อำนวยความสะดวกในการนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์สุขภาพ ลดขั้นตอน ลดระยะเวลา ลดการใช้เอกสาร ภายใต้ อย. ของ่าย ปลอดภัย ได้ที่บ้าน ด้วยระบบ FDA Smart Licensing ซึ่งอย. มีการขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเต็มรูปแบบด้วยแนวคิด ติดปีก อย. “Elevate Thai FDA” โดยใช้ 4 ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ ระบบมอบอำนาจ ระบบ Tracking อย. ระบบ FDA Importer e Service (Queuing & Tracking) และการใช้บัตรประชาชนใบเดียวอนุมัติออกของที่ด่านอาหารและยา เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว สร้างความเชื่อมั่น สู่การยอมรับในระดับสากล


บทบาท/ภารกิจของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

 

       ภารกิจตามกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีภารกิจเกี่ยวกับการปกป้องและคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยผลิตภัณฑ์สุขภาพเหล่านั้นต้องมีคุณภาพและปลอดภัย ส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคที่ถูกต้องด้วยข้อมูลทางวิชาการที่มีหลักฐานเชื่อถือได้และมีความเหมาะสม เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ปลอดภัยและสมประโยชน์ โดยมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

1) ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการใช้สารระเหย กฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยเครื่องมือแพทย์ กฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง กฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพร กฎหมายว่าด้วยยา กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ กฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท กฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย กฎหมายว่าด้วยอาหาร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

2) พัฒนาระบบและกลไก เพื่อให้มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบ

3) เฝ้าระวัง กำกับ และตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์สุขภาพ สถานประกอบการ และการโฆษณา รวมทั้งผลอันไม่พึงประสงค์ของผลิตภัณฑ์สุขภาพ การพัฒนาระบบความปลอดภัย ด้านสารเคมีของประเทศ และเป็นแกนกลางร่วมดำเนินการกับองค์กรระหว่างประเทศด้านสารเคมี ตลอดจนมีการติดตามหรือเฝ้าระวังข้อมูลข่าวสารด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพจากภายในประเทศและภายนอกประเทศ

4) ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และระบบงานคุ้มครองผู้บริโภค ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

5) ส่งเสริมและพัฒนาผู้บริโภคให้มีศักยภาพในการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย และคุ้มค่า รวมทั้งการร้องเรียนเพื่อปกป้องสิทธิของตนได้

6) พัฒนาและส่งเสริมการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยการมีส่วนร่วมของภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ประชาชน และเครือข่ายประชาคมสุขภาพ

7) พัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อให้งานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภค และผลประโยชน์ของประเทศชาติ

8) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของสำนักงาน หรือตามที่รัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

 

โครงการติดปีก อย.ไทย “Elevate Thai FDA”

       อย. เป็นองค์กรหลักด้านคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมผู้ประกอบการด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อประชาชนสุขภาพดี อย. ได้พัฒนาระบบการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์สุขภาพให้ทันสมัยและเป็นสากล มุ่งยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภค การอนุมัติ อนุญาตที่เป็นมาตรฐานสากล ทันสมัย โปร่งใส ร่วมสร้างความมั่งคั่ง สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ปรับปรุงกระบวนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากล และผลักดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ ให้ความสำคัญกับการให้บริการอนุมัติ อนุญาต อำนวยความสะดวกในการนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์สุขภาพ ลดขั้นตอน ลดระยะเวลา ลดการใช้เอกสาร ภายใต้ อย. ของ่าย ปลอดภัย ได้ที่บ้าน ด้วยระบบ FDA Smart Licensing ซึ่งอย. มีการขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเต็มรูปแบบด้วยแนวคิด ติดปีก อย. “Elevate Thai FDA” โดยใช้ 4 ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ ระบบมอบอำนาจ ระบบ Tracking อย. ระบบ FDA Importer e Service (Queuing & Tracking) และการใช้บัตรประชาชนใบเดียวอนุมัติออกของที่ด่านอาหารและยา เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว สร้างความเชื่อมั่น สู่การยอมรับในระดับสากล


สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ONE STOP SERVICES CENTER (OSSC) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 88/24 ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000

บทบาท/ภารกิจของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

 

       สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีภารกิจเกี่ยวกับการพัฒนายุทธศาสตร์ และแปลงนโยบายของกระทรวงเป็นแผนปฏิบัติราชการ ตลอดจนจัดสรรทรัพยากรและบริหารราชการประจำทั่วไปของกระทรวง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและเกิดผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจของกระทรวง โดยมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

  1. กำหนดนโยบาย เป้าหมาย และผลสัมฤทธิ์ของกระทรวง เพื่อให้สอดคล้องตามแนวทางพระราชดำริ นโยบายรัฐบาล สภาพปัญหาของพื้นที่ และสถานการณ์ของประเทศ ตลอดจนขับเคลื่อนนโยบายตามแนวทางและแผนปฏิบัติราชการ
  1. พัฒนายุทธศาสตร์การบริหารของกระทรวงและการบูรณาการด้านสุขภาพระหว่างองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการจัดการสาธารณสุขในภาวะปกติ ภาวะฉุกเฉิน หรือวิกฤติ การคุ้มครองผู้บริโภค และการมีส่วนร่วมของภาครัฐและภาคเอกชน
  1. จัดสรรและพัฒนาระบบบริหารทรัพยากรของกระทรวง เพื่อให้เกิดการประหยัด คุ้มค่า และสมประโยชน์
  1. กำกับ เร่งรัด ติดตาม และประเมินผล รวมทั้งประสานการปฏิบัติราชการด้านการแพทย์และการสาธารณสุข
  1. ดำเนินการและให้บริการด้านการแพทย์และการสาธารณสุข
  1. พัฒนาระบบการเงินการคลังและระบบบริการด้านสุขภาพให้เหมาะสมและได้มาตรฐาน
  1. พัฒนาระบบฐานข้อมูล ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สารนิเทศและการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ เพื่อใช้ในการบริหารงานและการบริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวง
  1. ส่งเสริม สนับสนุน และประสานการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
  1. ดำเนินงานและพัฒนาความร่วมมือด้านสุขภาพระหว่างประเทศ
  1. ดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายและพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวกับการแพทย์และการสาธารณสุขให้ทันสมัยและเหมาะสมยิ่งขึ้น
  1. ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านสุขภาพ รวมทั้งศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนา และถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านระบบบริการสุขภาพและด้านการพยาบาลแก่องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  1. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของสำนักงานปลัดกระทรวง หรือตามที่รัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย

 

วิสัยทัศน์

สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดทิศทาง กำกับดูแล ขับเคลื่อน นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข สู่การปฏิบัติ บริหารจัดการทรัพยากร และจัดบริการสุขภาพอย่างมีส่วนร่วมและเป็นธรรม เพื่อประชาชนสุขภาพดี

 

พันธกิจ

- กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และผลลัพธ์ด้านสุขภาพ พัฒนากฎหมาย กำหนดมาตรฐาน ประสานและบูรณาการประเด็นสุขภาพที่สำคัญ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ

- แปลงนโยบายสู่การปฏิบัติ ติดตามกำกับ (Monitoring) ประเมินผล (Evaluation) ตลอดจนกำกับดูแล (Regulate) การดำเนินงานตามกฎหมายและมาตรฐานด้านสุขภาพ

- จัดบริการและพัฒนาระบบบริการสุขภาพในด้านส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันควบคุมโรค รักษาพยาบาล ฟื้นฟูสภาพ และคุ้มครองผู้บริโภค ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายและภาคประชาชน

- สนับสนุนและพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข องค์ความรู้ ระบบข้อมูล เทคโนโลยีสารสนเทศ และภาคีเครือข่ายตามหลักธรรมาภิบาล

 

ค่านิยมองค์กร

“MOPH”

M : Mastery เป็นนายตนเอง

O : Originality เร่งสร้างสิ่งใหม่

P : People center ใส่ใจ ประชาชน

H : Humility ถ่อมตนอ่อนน้อม

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

 

1. นโยบายกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567 และสรุปผลงานสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

2. ปฏิบัติการทีมพิเศษฉุกเฉินด้านสุขภาพ SHERT : Special Health Emergency Response Team

 

 

3. โครงการจัดงาน MOPH Together Against Corruption & Stop SEAH ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

 


บทบาท/ภารกิจของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

 

       สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีภารกิจเกี่ยวกับการพัฒนายุทธศาสตร์ และแปลงนโยบายของกระทรวงเป็นแผนปฏิบัติราชการ ตลอดจนจัดสรรทรัพยากรและบริหารราชการประจำทั่วไปของกระทรวง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและเกิดผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจของกระทรวง โดยมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

  1. กำหนดนโยบาย เป้าหมาย และผลสัมฤทธิ์ของกระทรวง เพื่อให้สอดคล้องตามแนวทางพระราชดำริ นโยบายรัฐบาล สภาพปัญหาของพื้นที่ และสถานการณ์ของประเทศ ตลอดจนขับเคลื่อนนโยบายตามแนวทางและแผนปฏิบัติราชการ
  1. พัฒนายุทธศาสตร์การบริหารของกระทรวงและการบูรณาการด้านสุขภาพระหว่างองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการจัดการสาธารณสุขในภาวะปกติ ภาวะฉุกเฉิน หรือวิกฤติ การคุ้มครองผู้บริโภค และการมีส่วนร่วมของภาครัฐและภาคเอกชน
  1. จัดสรรและพัฒนาระบบบริหารทรัพยากรของกระทรวง เพื่อให้เกิดการประหยัด คุ้มค่า และสมประโยชน์
  1. กำกับ เร่งรัด ติดตาม และประเมินผล รวมทั้งประสานการปฏิบัติราชการด้านการแพทย์และการสาธารณสุข
  1. ดำเนินการและให้บริการด้านการแพทย์และการสาธารณสุข
  1. พัฒนาระบบการเงินการคลังและระบบบริการด้านสุขภาพให้เหมาะสมและได้มาตรฐาน
  1. พัฒนาระบบฐานข้อมูล ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สารนิเทศและการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ เพื่อใช้ในการบริหารงานและการบริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวง
  1. ส่งเสริม สนับสนุน และประสานการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
  1. ดำเนินงานและพัฒนาความร่วมมือด้านสุขภาพระหว่างประเทศ
  1. ดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายและพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวกับการแพทย์และการสาธารณสุขให้ทันสมัยและเหมาะสมยิ่งขึ้น
  1. ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านสุขภาพ รวมทั้งศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนา และถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านระบบบริการสุขภาพและด้านการพยาบาลแก่องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  1. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของสำนักงานปลัดกระทรวง หรือตามที่รัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย

 

วิสัยทัศน์

สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดทิศทาง กำกับดูแล ขับเคลื่อน นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข สู่การปฏิบัติ บริหารจัดการทรัพยากร และจัดบริการสุขภาพอย่างมีส่วนร่วมและเป็นธรรม เพื่อประชาชนสุขภาพดี

 

พันธกิจ

- กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และผลลัพธ์ด้านสุขภาพ พัฒนากฎหมาย กำหนดมาตรฐาน ประสานและบูรณาการประเด็นสุขภาพที่สำคัญ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ

- แปลงนโยบายสู่การปฏิบัติ ติดตามกำกับ (Monitoring) ประเมินผล (Evaluation) ตลอดจนกำกับดูแล (Regulate) การดำเนินงานตามกฎหมายและมาตรฐานด้านสุขภาพ

- จัดบริการและพัฒนาระบบบริการสุขภาพในด้านส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันควบคุมโรค รักษาพยาบาล ฟื้นฟูสภาพ และคุ้มครองผู้บริโภค ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายและภาคประชาชน

- สนับสนุนและพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข องค์ความรู้ ระบบข้อมูล เทคโนโลยีสารสนเทศ และภาคีเครือข่ายตามหลักธรรมาภิบาล

 

ค่านิยมองค์กร

“MOPH”

M : Mastery เป็นนายตนเอง

O : Originality เร่งสร้างสิ่งใหม่

P : People center ใส่ใจ ประชาชน

H : Humility ถ่อมตนอ่อนน้อม

 

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

 

1. นโยบายกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567 และสรุปผลงานสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

2. ปฏิบัติการทีมพิเศษฉุกเฉินด้านสุขภาพ SHERT : Special Health Emergency Response Team

 

 

3. โครงการจัดงาน MOPH Together Against Corruption & Stop SEAH ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

 


สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เลขที่ 88/20 ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 0-2590-1000
โทรสาร: 0-2590-1174
อีเมล: saraban@moph.go.th
นิทรรศการของหน่วยงานอื่นๆ
Background Desktop Background Mobile