กระทรวงอุตสาหกรรม
Ministry of Industry

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงอุตสาหกรรม

นโยบายและผลการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรม
       กระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายต่อเนื่องจากผลการดำเนินการปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ที่มุ่งเน้นการผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืนขานรับนโยบายรัฐบาล ภายใต้แนวทาง “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ที่ “เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” เน้นการสร้างและพัฒนา “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ปรับเปลี่ยนและขับเคลื่อนคุณค่าใหม่ของอุตสาหกรรม ที่รองรับบริบททางเศรษฐกิจของประเทศและในแต่ละพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม ควบคู่กับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน หรือการมุ่งสู่ Sustainable Growth ด้วยการยกระดับมาตรฐานและแนวปฏิบัติของอุตสาหกรรมเพื่อสร้างอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนคู่ชุมชน  โดยจะผลักดันและส่งเสริมให้สถานประกอบการและวิสาหกิจมีการประกอบการที่ดีอย่างรอบด้าน  ทั้งความสำเร็จทางธุรกิจ สร้างธุรกิจเข้มแข็ง เติบโต และสร้างผลกำไร ความอยู่ดีกับสังคมโดยรวม  มีการประกอบกิจการที่ดีไม่สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ สร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้ประชาชน ความลงตัวกับกติกาสากล ปรับตัวและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์สากล เช่น ความเป็นกลางทางคาร์บอน มาตรฐานป่าไม้ยั่งยืน หรือการไม่ซื้อหรือสนับสนุนการเผาที่สร้างฝุ่นพิษ PM ๒.๕ รวมถึง การกระจายรายได้สู่ชุมชนที่ตั้ง สร้างรายได้ ใช้สินค้าหรือบริการจากชุมชน พัฒนาชุมชนที่อยู่รอบโรงงาน และสร้าง Supply Chain เชื่อมโยงอุตสาหกรรมกับชุมชน อันจะนำไปสู่ความยั่งยืนในการประกอบการของกิจการเอง รวมทั้งขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับภาคเศรษฐกิจของประเทศต่อไป มีแนวทางยุทธศาสตร์ ดังนี้
         - ผลักดันอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ โดย (๑) “ปรับปรุงอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพพร้อมทั้งผลักดันอุตสาหกรรมใหม่” ประกอบด้วย อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมชีวภาพ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงยกระดับอุตสาหกรรมเดิมสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ โดยการส่งเสริมพลังงานสีเขียว เตรียมปลดล็อคการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ชนิด Solar Rooftop ไม่ต้องขอรับใบอนุญาต การเสนอตั้งศูนย์อุตสาหกรรม Halal  และคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ (๒) การส่งเสริมอุตสาหกรรม Soft Power เชื่อมโยงด้านความคิดสร้างสรรค์ การบริการและการผลิตเข้าด้วยกัน เช่น การท่องเที่ยวเชิงอาหาร สิ่งทอเชิงวัฒนธรรม ฯลฯ (๓) การสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสู่ภูมิภาค การนำองค์ความรู้ด้านธุรกิจและศาสตร์ทางอุตสาหกรรมมาประยุกต์ใช้กับการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ ควบคู่กับการแปรรูปผลผลิตทางเกษตรให้มีมูลค่าสูง
         -
การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน และสตาร์ทอัพ ให้มีความเข้มแข็งและปรับตัวสู่อนาคต  ด้วยการนำองค์ความรู้ ผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันเครือข่าย (SME D BANK) มายกระดับ SMEs ไทย พร้อมทั้งการจัดการสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานบังคับ (มอก.) อย่างจริงจัง การจัดงานอุตสาหกรรมแฟร์ รวมถึงผลักดันการจัดการปัญหาหนี้ร่วมกับผู้ประกอบการ ตามนโยบายรัฐบาล
         - ผลักดันมาตรการแก้ไขฝุ่นควัน  PM ๒.๕ ให้ครอบคลุมทุกมิติ ในพื้นที่ กรุงเทพและปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้อำนาจหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อลดการเผาอ้อยขับเคลื่อนการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวและซัพพลายเชนสีเขียวของโรงงานโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย การลดการปล่อยมลพิษของยานยนต์ โดยยกระดับมาตรฐานรถยนต์เป็น EURO ๕ ต้นปี ๒๕๖๗ สนับสนุนเงินทุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM ๒.๕  และการผลักดันเข้าสู่ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจร รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการลดการปล่อยฝุ่นควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม 
         - ปรับเปลี่ยนการประกอบอุตสาหกรรมของประเทศสู่ความยั่งยืนใส่ใจประชาชน ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเพื่อลดปัญหามลพิษทางกาก น้ำ และอากาศจากภาคอุตสาหกรรมและเหมืองแร่อย่างเป็นระบบ เพื่อยกระดับมาตรฐานให้สอดคล้องกับกติกาสากลให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว พร้อมกับการผลักดันสถานประกอบการเข้าสู่พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมหรือเขตประกอบอุตสาหกรรม เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชน ประกอบกับการผลักดันสร้างความยั่งยืนด้วยกลไกและการดำเนินงาน เช่น พัฒนาระบบการรายงานด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อลดการปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม กำหนด ๑๕๐ มาตรฐาน EV ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียว Green Industry ทั่วประเทศ เช่น โครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ ดิน น้ำ ลม ไฟ” การนำระบบดิจิทัลในการกำกับโรงงาน รวมทั้ง CEM ระบบ GPS โรงงาน i:Auditor เพื่อช่วยลดการร้องเรียน ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ รักษ์น้ำใส ใส่ใจชุมชน” เป็นต้น ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมจะบริหารและขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมด้วย SMILE บริการเชิงรุกด้วยทัศนคติเชิงบวก ที่สามารถสร้างรอยยิ้มและความมั่นใจ แก่ผู้ประกอบการและประชาชน จากการบริการที่มีระยะเวลาดำเนินการที่ชัดเจน โดยยกระดับการบริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างมุ่งมั่นและต่อเนื่อง พร้อมกับผลักดันการปรับปรุง กฎหมายที่อยู่   ในขอบเขตของกระทรวง เช่น พ.ร.บ. โรงงาน แก้ไขช่องโหว่ในการส่งเสริมและดูแล อีกทั้งเร่งรัดการดำเนินงานผ่านระบบออนไลน์ สู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ เพื่อผลักดันการดูแล ส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมให้ปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรม สู่พื้นที่ทางเศรษฐกิจใหม่และเติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ติดตามผลงานที่สําคัญเพิ่มเติมได้ที่
       ๑) ตลาดดีพร้อม - DIProm Marketplace

       ๒) เหมืองแร่ปลอดภัย ห่วงใยประชาชน ปี 7

       ๓) การสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5

       ๔) งานแถลงข่าวดัชนีอุตสาหกรรม

       ๕) การชี้นำและเตือนภัย Industrial Intelligence Unit

สามารถชมสินค้าออนไลน์ได้ที่
       จำหน่ายสินค้าออนไลน์  https://www.facebook.com/groups/diprommarketplace/
       ตลาดดีพร้อม - DIProm Marketplace https://online.fliphtml5.com/bbysx/tvqy/

ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงอุตสาหกรรม

นโยบายและผลการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรม
       กระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายต่อเนื่องจากผลการดำเนินการปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ที่มุ่งเน้นการผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืนขานรับนโยบายรัฐบาล ภายใต้แนวทาง “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ที่ “เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” เน้นการสร้างและพัฒนา “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ปรับเปลี่ยนและขับเคลื่อนคุณค่าใหม่ของอุตสาหกรรม ที่รองรับบริบททางเศรษฐกิจของประเทศและในแต่ละพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม ควบคู่กับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน หรือการมุ่งสู่ Sustainable Growth ด้วยการยกระดับมาตรฐานและแนวปฏิบัติของอุตสาหกรรมเพื่อสร้างอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนคู่ชุมชน  โดยจะผลักดันและส่งเสริมให้สถานประกอบการและวิสาหกิจมีการประกอบการที่ดีอย่างรอบด้าน  ทั้งความสำเร็จทางธุรกิจ สร้างธุรกิจเข้มแข็ง เติบโต และสร้างผลกำไร ความอยู่ดีกับสังคมโดยรวม  มีการประกอบกิจการที่ดีไม่สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ สร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้ประชาชน ความลงตัวกับกติกาสากล ปรับตัวและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์สากล เช่น ความเป็นกลางทางคาร์บอน มาตรฐานป่าไม้ยั่งยืน หรือการไม่ซื้อหรือสนับสนุนการเผาที่สร้างฝุ่นพิษ PM ๒.๕ รวมถึง การกระจายรายได้สู่ชุมชนที่ตั้ง สร้างรายได้ ใช้สินค้าหรือบริการจากชุมชน พัฒนาชุมชนที่อยู่รอบโรงงาน และสร้าง Supply Chain เชื่อมโยงอุตสาหกรรมกับชุมชน อันจะนำไปสู่ความยั่งยืนในการประกอบการของกิจการเอง รวมทั้งขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับภาคเศรษฐกิจของประเทศต่อไป มีแนวทางยุทธศาสตร์ ดังนี้
         - ผลักดันอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ โดย (๑) “ปรับปรุงอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพพร้อมทั้งผลักดันอุตสาหกรรมใหม่” ประกอบด้วย อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมชีวภาพ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงยกระดับอุตสาหกรรมเดิมสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ โดยการส่งเสริมพลังงานสีเขียว เตรียมปลดล็อคการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ชนิด Solar Rooftop ไม่ต้องขอรับใบอนุญาต การเสนอตั้งศูนย์อุตสาหกรรม Halal  และคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ (๒) การส่งเสริมอุตสาหกรรม Soft Power เชื่อมโยงด้านความคิดสร้างสรรค์ การบริการและการผลิตเข้าด้วยกัน เช่น การท่องเที่ยวเชิงอาหาร สิ่งทอเชิงวัฒนธรรม ฯลฯ (๓) การสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสู่ภูมิภาค การนำองค์ความรู้ด้านธุรกิจและศาสตร์ทางอุตสาหกรรมมาประยุกต์ใช้กับการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ ควบคู่กับการแปรรูปผลผลิตทางเกษตรให้มีมูลค่าสูง
         -
การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน และสตาร์ทอัพ ให้มีความเข้มแข็งและปรับตัวสู่อนาคต  ด้วยการนำองค์ความรู้ ผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันเครือข่าย (SME D BANK) มายกระดับ SMEs ไทย พร้อมทั้งการจัดการสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานบังคับ (มอก.) อย่างจริงจัง การจัดงานอุตสาหกรรมแฟร์ รวมถึงผลักดันการจัดการปัญหาหนี้ร่วมกับผู้ประกอบการ ตามนโยบายรัฐบาล
         - ผลักดันมาตรการแก้ไขฝุ่นควัน  PM ๒.๕ ให้ครอบคลุมทุกมิติ ในพื้นที่ กรุงเทพและปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้อำนาจหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อลดการเผาอ้อยขับเคลื่อนการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวและซัพพลายเชนสีเขียวของโรงงานโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย การลดการปล่อยมลพิษของยานยนต์ โดยยกระดับมาตรฐานรถยนต์เป็น EURO ๕ ต้นปี ๒๕๖๗ สนับสนุนเงินทุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM ๒.๕  และการผลักดันเข้าสู่ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจร รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการลดการปล่อยฝุ่นควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม 
         - ปรับเปลี่ยนการประกอบอุตสาหกรรมของประเทศสู่ความยั่งยืนใส่ใจประชาชน ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเพื่อลดปัญหามลพิษทางกาก น้ำ และอากาศจากภาคอุตสาหกรรมและเหมืองแร่อย่างเป็นระบบ เพื่อยกระดับมาตรฐานให้สอดคล้องกับกติกาสากลให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว พร้อมกับการผลักดันสถานประกอบการเข้าสู่พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมหรือเขตประกอบอุตสาหกรรม เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชน ประกอบกับการผลักดันสร้างความยั่งยืนด้วยกลไกและการดำเนินงาน เช่น พัฒนาระบบการรายงานด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อลดการปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม กำหนด ๑๕๐ มาตรฐาน EV ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียว Green Industry ทั่วประเทศ เช่น โครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ ดิน น้ำ ลม ไฟ” การนำระบบดิจิทัลในการกำกับโรงงาน รวมทั้ง CEM ระบบ GPS โรงงาน i:Auditor เพื่อช่วยลดการร้องเรียน ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ รักษ์น้ำใส ใส่ใจชุมชน” เป็นต้น ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมจะบริหารและขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมด้วย SMILE บริการเชิงรุกด้วยทัศนคติเชิงบวก ที่สามารถสร้างรอยยิ้มและความมั่นใจ แก่ผู้ประกอบการและประชาชน จากการบริการที่มีระยะเวลาดำเนินการที่ชัดเจน โดยยกระดับการบริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างมุ่งมั่นและต่อเนื่อง พร้อมกับผลักดันการปรับปรุง กฎหมายที่อยู่   ในขอบเขตของกระทรวง เช่น พ.ร.บ. โรงงาน แก้ไขช่องโหว่ในการส่งเสริมและดูแล อีกทั้งเร่งรัดการดำเนินงานผ่านระบบออนไลน์ สู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ เพื่อผลักดันการดูแล ส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมให้ปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรม สู่พื้นที่ทางเศรษฐกิจใหม่และเติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ติดตามผลงานที่สําคัญเพิ่มเติมได้ที่
       ๑) ตลาดดีพร้อม - DIProm Marketplace

       ๒) เหมืองแร่ปลอดภัย ห่วงใยประชาชน ปี 7

       ๓) การสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5

       ๔) งานแถลงข่าวดัชนีอุตสาหกรรม

       ๕) การชี้นำและเตือนภัย Industrial Intelligence Unit

สามารถชมสินค้าออนไลน์ได้ที่
       จำหน่ายสินค้าออนไลน์  https://www.facebook.com/groups/diprommarketplace/
       ตลาดดีพร้อม - DIProm Marketplace https://online.fliphtml5.com/bbysx/tvqy/

กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ๗๕/๖ ถนนพระรามที่ ๖ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ๑๐๔๐๐
โทรศัพท์: ๐-๒๔๓๐-๖๙๙๙
โทรสาร: ๐-๒๔๓๐-๖๙๙๑
อีเมล: saraban@industry.go.th
นิทรรศการของหน่วยงานอื่นๆ